คลินิกกายภาพบำบัด บางพลัด MRT สิรินธร

ปวดหลัง ขาชา เกิดจากอะไร

คุณเคยตกใจเมื่อมีอาการปวดหลัง ขาชา แล้วไม่รู้ว่าเกิดจากอะไรหรือไม่

 

การปวดหลังและขาชาสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ โดยทั่วไปแล้วอาการนี้เกิดจากปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลต่อระบบกล้ามเนื้อและระบบประสาทในส่วนของหลังและขา

ตัวอย่างของสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดหลังและขาชาได้แก่

  • โรคหลอดเลือดสมองที่ส่งผลกระทบต่อเส้นประสาทที่อยู่ใกล้เคียงกับหลังและขา
  • โรคกระดูกพรุนหลัง เช่น กระดูกอ่อน (osteoporosis) หรือเส้นเอ็นผลึก (herniated disc) ที่ส่งผลกระทบต่อประสาทส่วนกลางและส่วนประสาทส่วนย่อยของหลังและขา
  • การบีบตัวของเส้นประสาทในหลังและขา ซึ่งอาจเกิดจากการเปลี่ยนท่านั่งโดยไม่ถูกต้องหรือนั่งนานเวลา
  • ความเครียดหรือภาวะสุขภาพจิตที่ทำให้กล้ามเนื้อหลังและขาอักเสบ
  • อาการแพ้ยาหรือภูมิแพ้ที่ทำให้เกิดอาการอักเสบในระบบประสาท
  • อาการปวดเมื่อยในกล้ามเนื้อหลังและขาที่เกิดจากการใช้กล้ามเนื้อมากเกินไปหรือการทำงานหนักในเวลานาน
  • การใช้ยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล (Paracetamol) หรือนอร์ทริพทานอล (NSAIDs) เพื่อลดอาการปวดและอักเสบในเวลาชั่วคราว
  • การทำกิจกรรมกายภาพบำบัด เช่น การเยื้องหลัง การยืดกล้ามเนื้อ การฝึกหลังและขา เพื่อเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและเพิ่มความยืดหยุ่นของร่างกาย
  • การใช้เครื่องอำพันไฟฟ้า หรือ TENS (Transcutaneous Electrical Nerve Stimulation) เพื่อลดอาการปวดและอักเสบในส่วนของหลังและขา
  • การแพทย์แผนไทย เช่น การนวดและบริหารจุดต่างๆ บนร่างกาย เพื่อเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและป้องกันการอักเสบในส่วนต่างๆ ของร่างกาย
  • การรักษาโรคพื้นฐานที่ส่งผลต่ออาการปวดหลังและขาชา เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณมีอาการปวดหลังและขาชาเป็นเวลานานหรือมีอาการรุนแรง คุณควรพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสมต่อไป

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *