คลินิกกายภาพบำบัด บางพลัด MRT สิรินธร

โรครองช้ำ (Plantar Fasciitis)

โรครองช้ำ

โรครองช้ำหรือพังผืดใต้ฝ่าเท้าอักเสบ (Plantar Fasciitis) เป็นภาวะอักเสบของเนื้อเยื่อใต้ฝ่าเท้าที่เรียกว่าเส้นเอ็น Plantar Fascia ซึ่งเป็นเนื้อเยื่อช่วยพยุงอุ้งเท้าให้อยู่ในท่าทางปกติ และทำหน้าที่รับแรงกระทำที่เกิดขึ้นกับฝ่าเท้า ขณะเดินหรือวิ่งของฝ่าเท้า โรคนี้อาจเกิดขึ้นเมื่อเส้นเอ็น Plantar Fascia ถูกยืดเกินไป ทำให้เกิดอาการอักเสบและปวดใต้ฝ่าเท้า รองช้ำ (Plantar Fasciitis) เป็นโรคที่มักพบในผู้ที่มีกิจกรรมที่ต้องยืนนานหรือใช้ฝ่าเท้ามาก เช่น วิ่งหรือเดินเยอะ หรือผู้ที่มีน้ำหนักเกินมาตราฐาน มักเกิดอาการปวดใต้ฝ่าเท้าขณะเดินหรือยืนนานๆ

อาการของโรครองช้ำ (Plantar Fasciitis) ประกอบด้วย:

1.อาการปวดใต้ฝ่าเท้า มักเกิดบริเวณหน้าส้นเท้า

2.ปวดเฉพาะเมื่อเริ่มเดินหรือยืนเป็นเวลานาน

3.อาจเกิดอาการปวดมากขึ้นในตอนเช้าหรือหลังจากตื่นนอน

4.บางครั้งอาจมีอาการบวมบริเวณใต้ฝ่าเท้า

 

การรักษาโรครองช้ำ (Plantar Fasciitis) อาจมีวิธีดังนี้:

1.การพักผ่อน: ลดกิจกรรมที่ใช้ฝ่าเท้า เพื่อให้เนื้อเยื่อมีโอกาสฟื้นตัวและลดอาการอักเสบ

2.การบริหารกล้ามเนื้อ: การทำแบบฝึกยืดเนื้อเยื่อใต้ฝ่าเท้าลดการปวดหรืออักเสบ

3.การใช้รองเท้าที่เหมาะสม: การเลือกใช้รองเท้าที่ช่วยพยุงอุ้งเท้าให้อยู่ในท่าทางปกติ

4.การใช้อุปกรณ์ช่วยเหลือ: รองเท้าแผ่นเสริมหรือใช้สายรัดข้อข้อเท้าเพื่อลดแรงกระแทก

5.การใช้ยา: แพทย์อาจสั่งให้ใช้ยาลดการอักเสบหรือยาแก้ปวดเพื่อช่วยบรรเทาอาการ

6.การฝังเข็ม: การรักษาด้วยการฝังเข็มหรือการกายภาพบำบัดบางกรณีอาจพิจารณาตามคำแนะนำของแพทย์

 

ที่ผ่านมา ของโรครองช้ำหรือพังผืดใต้ฝ่าเท้าอักเสบ (Plantar Fasciitis) การรักษามีความสำคัญเพื่อลดอาการปวดและป้องกันการกลับมาของโรคนี้ นอกจากวิธีการที่ได้กล่าวมาแล้วยังมีเสริมอีกบางวิธีที่อาจช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้นได้:

1.การทำกายภาพบำบัด: กายภาพบำบัดอาจช่วยในการเสริมกล้ามเนื้อและเพิ่มความยืดหยุ่นของเนื้อเยื่อใต้ฝ่าเท้า นอกจากนี้กายภาพบำบัดยังช่วยลดอาการปวดและเพิ่มประสิทธิภาพของการรักษา.

2.การนวด: การนวดเนื้อเยื่อใต้ฝ่าเท้าอาจช่วยลดอาการปวดและความตึงของกล้ามเนื้อ แต่ควรให้นักกายภาพบำบัดหรือนักนวดมืออาชีพทำการนวดนี้เพื่อป้องกันการบาดเจ็บ

3.การใช้เครื่องนวดไฟฟ้า: เครื่องนวดไฟฟ้าอาจช่วยในการลดอาการปวดและความตึงของเนื้อเยื่อใต้ฝ่าเท้า แต่ควรปรึกษากับแพทย์หรือนักกายภาพบำบัดก่อนการใช้งาน.

4.การใช้อุปกรณ์ช่วยเหลือ: การใช้อุปกรณ์ช่วยเหลือเช่น อาศัยเครื่องยืนตัวเสริมข้อหรือรองเท้าที่การเลือกใช้รองเท้าที่ช่วยพยุงอุ้งเท้าสามารถช่วยลดแรงกระแทกต่อเนื้อเยื่อใต้ฝ่าเท้า.

5.การศึกษาแนวทางการเลือกรองเท้า: การเลือกใช้รองเท้าที่มีแนวทางการออกแบบที่เหมาะสมสำหรับการป้องกันและรักษาโรครองช้ำมีความสำคัญ รองเท้าควรเลือกใช้ที่ช่วยพยุงอุ้งเท้า

ด้านหน้าและด้านหลังของฝ่าเท้าและที่ส้นเท้า.

สำหรับการรักษาโรครองช้ำหรือพังผืดใต้ฝ่าเท้าอักเสบ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกและข้อ และปฏิบัติตามคำแนะนำที่ได้รับอย่างเคร่งครัด เนื่องจากการรักษาที่ถูกต้องและทันเวลาสามารถช่วยให้คุณกลับคืนสุขภาพของฝ่าเท้าได้อย่างรวดเร็วและป้องกันอาการกลับมาเกิดขึ้นในอนาคต

 

การป้องกันโรครองช้ำ (Plantar Fasciitis) สามารถทำได้โดยขั้นตอนต่อไปนี้:

  1. การเลือกรองเท้าที่เหมาะสม: ในชีวิตประจำวันหรือในกิจกรรมกีฬา ควรเลือกรองเท้าที่รองรับเท้าอย่างเหมาะสมและช่วยพยุงอุ้งเท้าได้ดีกับทรงเท้าของคุณ หากคุณมีประวัติของโรครองช้ำหรือมีความเสี่ยง ควรใส่รองเท้าที่มีความรองรับหรือช่วยพยุงอุ้งเท้าหรือรองเท้าพื้นเรียบ แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ต้องทำงานนานๆ ต้องใส่รองเท้าที่มีความนุ่มสบายและมีการดูแลความสบายของเท้าอย่างเหมาะสม
  2. การฝึกยืดเส้นใยเท้า: การทำการยืดเส้นใยเท้าเป็นประจำ โดยเฉพาะในช่วงเช้าหลังจากตื่นนอน สามารถช่วยลดความตรึงของส้นเท้าและป้องกันการอักเสบได้
  3. ควบคุมน้ำหนัก: ควรรักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติหรือสมส่วน เพราะน้ำหนักเกินมากอาจทำให้เส้นใยเท้าเกิดการปวดอักเสบและกระทบการใช้ชีวิตประจำวันได้
  4. การป้องกันการบาดเจ็บ: หากมีกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บเช่นการวิ่งหรือกีฬาที่ใช้ส้นเท้ามาก ควรหาข้อมูลการป้องกันและเตรียมตัวอย่างเหมาะสม และควรเลือกใช้รองเท้าที่มีการรองรับเท้าและมีความเหมาะสมกับอุ้งเท้าของเรา
  5. การพักผ่อนและการฟื้นตัว: หากคุณรู้สึกปวดส้นเท้า ควรให้เท้าพักผ่อน และไม่ควรทำกิจกรรมที่ทำให้เส้นใยเท้าเสียดสีมากเกินไป ในบางกรณีอาจต้องพักระยะยาวเพื่อรักษาตัว
  6. การรักษาความสมดุลของกล้ามเนื้อ: การฝึกกายภาพและสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและเส้นใยเท้า สามารถช่วยป้องกันการเกิดอักเสบ หรือปวดได้
  7. พบแพทย์: หากคุณมีอาการปวดส้นเท้าเรื้อรังหรืออาการหนักขึ้น ควรพบแพทย์หรือนักกายภาพบำบัดเพื่อการวินิจฉัยและการรักษาเพิ่มเติม

การป้องกันโรครองช้ำเป็นสิ่งสำคัญเพื่อรักษาสุขภาพของเท้าและป้องกันอาการปวดส้นเท้าในอนาตคได้

การทำกายภาพบำบัด ด้วยเครื่องมือทางกายภาพบำบัดไม่ว่าจะเป็น TECAR,Shockwave,High power laser, Ultrasound,PMS,Electrical Stimulation รวมถึง Manual technique ต่างๆ และคำแนะนำการปฏิบัติท่าทางที่เหมาะสม เพื่อบรรเทาอาการปวด ป้องกันการบาดเจ็บของส้นเท้าเรื้อรัง และลดการอักเสบ

 

ติดต่อเรา

Tel:098 225 2255

Facebook:Bangkok pain clinic คลินิกกายภาพบำบัด

Gmail:bangkokpainclinic@gmail.com

Website:bangkokpainclinic.com

 

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *