คลินิกกายภาพบำบัด บางพลัด MRT สิรินธร

อันตรายที่แฝงมากับรองเท้าส้นสูง

อันตรายที่แฝงมากับรองเท้าส้นสูง

ปัจจุบันแฟชั่นการแต่งตัวให้ดูดีเป็นสิ่งสำคัญ สาวๆในยุคสมัยนี้ให้ความสำคัญกับบุคลิกการแต่งตัวเป็นอันดับต้นๆ ก่อนออกจากบ้านต้องดูดี ซึ่งขาดไม่ได้เลยคือรองเท้าส้นสูงคู่ใจของใครหลายๆคน ที่จะเพิ่มความมั่นใจ รูปลักษณ์ให้ดูดีดูสง่า ซึ่งลืมไปว่าการสวมรองเท้าที่ดีและถูกต้องนั้นก็สำคัญเช่นกัน หากสวมรองเท้าส้นสูงทุกๆวันเป็นระยะเวลานานๆ  อาจจะส่งผลกระทบต่อร่างกายของเราโดยที่ไม่รู้ตัว

 

ข้อเสีย

1.ปวดเท้า  การสวมรองเท้าส้นสูงทำให้ทรงตัวลำบาก ลำตัวโน้มไปด้านหน้าส่งผลให้กระดูกเท้าต้องรับน้ำหนัก หากถูกบีบรัดจนเกินไปอาจส่งผลให้กระดูกและเส้นประสาทบริเวณฝ่าเท้าเกิดการอักเสบได้

2.ปวดน่องเอ็นร้อยหวายตึง  ในการสวมใส่รองเท้าเหมือนเป็นการยืนเขย่าตลอดเวลาจึงส่งผลให้บริเวณที่เป็นเอ็นร้อยหวายนั้นตึง เป็นสาเหตุที่ทำให้ปวดน่อง หรือเป็นตะคริว

3.ปวดเข่า  เสี่ยงเป็นโรคเข่าเสื่อมการเดินบนส้นสูงนั้นจะเกิดแรงกระแทกที่บริเวณข้อเข่า เข่าเป็นกระดูกข้อต่อที่ใหญ่ที่สุด ทำให้การรองรับความตึงเป็นระยะเวลานานนั้นอาจจะทำให้น้ำในไขข้อกระดูกลดลงจนเกิดเป็นรอยแตกทำให้ข้อเข่าเสื่อมและเสี่ยงต่อการเป็นโรคกระดุกพรุนได้

4.ปวดหลัง  การใส่ส้นสูงทำให้ช่วงลำตัวแอ่นไปด้านหน้า ซึ่งกระดูกสันหลังจะคดเป็นรูปตัว S หากเป็นในระยะเวลานานๆ ก็จะมีปัญหาปวดหลังตามมา

5.อุบัติเหตุ  การสวมรองเท้าส้นสุงนั้นมีโอกาสทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย เพราะต้องทรงตัวยืนบนรองเท้าที่มีความมั่นคงไม่แข็งแรง หากพื้นทางเดินขรุขระอาจะทำให้สะดุดหกล้มหรือข้อเท้าพลิกได้

6.โครงสร้างเท้าผิดรูป  การใส่รองเท้าส้นสูงที่บีบรัดแน่นเท้า เช่น รองเท้าที่มีหัวแคบ เป็นสายรัดหน้าเท้าของเราหากใส่เป็นเวลานานๆ กระดูกนิ้วเท้าที่โดนบีบรัดเป็นเวลานานก็จะทำให้ผิดรูปได้

 

 

 

การออกกำลังกายแก้ปวดหลัง

 

ปวดหลังเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยสำหรับผู้คนมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ใช้เวลานานกับการนั่งหรือทำงานที่โต๊ะทำงาน อย่างไรก็ตาม การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและมีท่าทางที่ดีสามารถช่วยป้องกันการเจ็บหลังได้ ต่อไปนี้คือเทคนิคการออกกำลังกายที่อาจช่วยป้องกันการเจ็บหลังได้

  1. สร้างกล้ามเนื้อคอร์ให้แข็งแรง: กล้ามเนื้อคอร์ของคุณรวมถึงกล้ามเนื้อท้องและกล้ามเนื้อหลังช่วยสนับสนุนกระดูกสันหลังของคุณและปรับปรุงท่าทางของคุณ การทำแผ่นซีด, แครัชและการยกหลังเป็นการออกกำลังกายที่ดีสำหรับการเสริมสร้างกล้ามเนื้อคอร์
  2. ยืดเข่า: เข่าที่แน่นและตึงอาจเป็นสาเหตุของการปวดหลังดังนั้น การยืดเข่าอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญ คุณสามารถทำได้โดยตั้งตัวนอนหงายและใช้สายหรือผ้าเชือกดันเบา ๆ เข่าของคุณเข้าหาลำตัว
  3. รวมกิจกรรมออกกำลังกายที่มีผลต่อร่างกายต่ำ: การออกกำลังกายแบบกระชับเชิงสูงเช่นวิ่งและกระโดดอาจทำให้เจ็บหลัง ดังนั้นคุณควรลองกิจกรรมออกกำลังกายแบบกระชับเช่งสูงต่ำ เช่นเดินเรืองานฝึกสอนฟิตเนสหรือจักรยาน
    1. ใช้ท่าทางที่ถูกต้อง: เมื่อยกน้ำหนักหรือทำออกกำลังกายอย่างใดอย่างหนึ่ง สิ่งสำคัญที่สุดคือการใช้ท่าทางที่ถูกต้อง เพื่อหลีกเลี่ยงการกดดันที่ไม่จำเป็นต่อหลังของคุณ เช่นเมื่อยกน้ำหนัก ควรเอนตัวตรงและใช้ขาของคุณในการยก
    2. พักผ่อนและยืดตัวอย่างสม่ำเสมอ: หากคุณใช้เวลานานกับการนั่งที่โต๊ะหรือหน้าจอคอมพิวเตอร์ ควรพักผ่อนโดยยืนขึ้นและยืดหลังและขาของคุณ สิ่งนี้สามารถช่วยปรับปรุงการไหลเวียนโลหิตและป้องกันความแข็งของกล้ามเนื้อได้

    โดยจำเป็นต้องระมัดระวังเสมอว่าคุณควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ก่อนเริ่มการออกกำลังกายใหม่โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมีประวัติของอาการปวดหลังหรือโรคอื่น ๆ