นิ้วล๊อก สาเหตุ อาการ การดูแลตัวเอง
นิ้วล๊อก
การหมดความไวต่อการสัมผัสของเนื้อเยื่อของนิ้วมือหรือนิ้วเท้าเรียกว่านิ้วล็อก (Trigger finger) สาเหตุสำคัญของโรคนี้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในเนื้อเยื่อรอบข้อนิ้ว โดยที่เนื้อเยื่อนี้มักเกิดการติดตัวกันหรือหดตัว ทำให้เกิดการหยุดชะงักในการเคลื่อนไหวของนิ้ว เมื่อพยายามงอหรือเหยียดนิ้วให้เหยียดตรง จะมีการสะดุดเป็นครั้งคราว และเมื่อเนื้อเยื่อหยุดติดตัวกันเพิ่มขึ้นนั้นจะทำให้มีการหลั่งสารน้ำเลี้ยงไม่เพียงพอ เนื่องจากเนื้อเยื่อมีการบวม อาการของนิ้วล็อกมักเกิดขึ้นในผู้ที่มีการใช้งานนิ้วมืออย่างต่อเนื่อง หรือในผู้ที่มีโรคเส้นเอ็นตับอักเสบหรือโรคระบบไตเสื่อมทราบถึงอาการนี้ได้บ่อยเพราะเกี่ยวข้องกับภาวะการติดเชื้อของเนื้อเยื่อต่างๆ ในร่างกาย
อาการของนิ้วล็อก (Trigger finger) จะมีลักษณะดังนี้
- ปวดเมื่องอนนิ้ว และปวดเมื่อใช้งานนิ้ว
- มีเสียงดังตอนงอหรือเหยียดนิ้ว
- นิ้วเหยียดไม่ออกเป็นปกติ หรือมีการสะดุดเป็นครั้งคราวตอนงอหรือเหยียด
- มีผื่นแดงหรือบวมเล็กน้อยบริเวณบริเวณข้อนิ้ว
- หากเนื้อเยื่อหยุดติดกันหนักขึ้น อาจเกิดอาการหยุดชะงักของนิ้วและต้องใช้มืออีกมือหรือใช้ความแรงเพิ่มเติมเพื่อเคลื่อนไหว
หากมีอาการดังกล่าวควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม โดยแพทย์อาจสั่งการฝึกอบรมการกดนิ้วและแนะนำการใช้แก้มนิ้วเพื่อช่วยลดอาการบวมและปวดของนิ้วล็อกได้บ้าง ในกรณีที่อาการรุนแรงและไม่ดีขึ้น อาจจะต้องพิจารณาการรักษาด้วยการผ่าตัด ซึ่งจะได้รับคำแนะนำและวิธีการดังกล่าวจากแพทย์ที่ทำการตรวจวินิจฉัยให้
Office Syndrome กับ อาการนิ้วล๊อก
การใช้สมาร์ทโฟนบ่อยๆ อาจทำให้เกิดอาการนิ้วล็อก (Trigger finger) ได้ โดยเฉพาะกับคนที่ใช้สมาร์ทโฟนในท่าที่ไม่ถูกต้อง เช่น การใช้นิ้วหัวแม่มือเพื่อกดปุ่มหรือแตะหน้าจออย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวซ้ำซ้อนในเมื่อเวลานาน และอาจทำให้เกิดการอักเสบของเนื้อเยื่อบริเวณข้อนิ้ว
การใช้สมาร์ทโฟนไม่ใช่สาเหตุหลักในการเกิดนิ้วล็อก แต่อาจเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอาการนิ้วล็อก เพราะการใช้สมาร์ทโฟนตลอดเวลาสามารถทำให้มีการเคลื่อนไหวซ้ำซ้อนของนิ้วเป็นระยะเวลานานๆ
การป้องกันการเกิดนิ้วล็อกจากการใช้สมาร์ทโฟน สามารถทำได้โดยการใช้นิ้วหัวแม่มือหรือนิ้วก้อยที่ไม่ได้ใช้บ่อยมากในการกดปุ่มหรือแตะหน้าจอ รวมถึงการปรับเปลี่ยนท่าที่ใช้ในการใช้สมาร์ทโฟน โดยหลีกเลี่ยงการใช้สมาร์ทโฟนเป็นเวลานานๆ และมีการพักผ่อนนิ้วบ่อยๆ รวมถึงการฝึกท่าบริหารนิ้วเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อในพื้นที่ของนิ้วและข้อนิ้ว
การรักษานิ้วล๊อก (Trigger finger) สามารถทำได้หลายวิธี ซึ่งจะขึ้นอยู่กับความรุ่งเรืองของอาการ แต่วิธีการรักษาที่พบมากที่สุดคือการใช้ยาและการฝึกหัด ดังนี้
- การใช้ยา
- ยาแก้ปวด: ช่วยบรรเทาอาการปวดและอาการอักเสบ ได้แก่ พาราเซตามอล หรืออีบูโพรเฟน
- ยาต้านการอักเสบ: ช่วยลดการอักเสบ และช่วยเร่งการฟื้นฟูของเนื้อเยื่อ
- การฝึกหัด การฝึกหัดจะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและเพิ่มความยืดหยุ่นของเนื้อเยื่อ ซึ่งจะช่วยลดอาการนิ้วล๊อกได้ วิธีการฝึกหัด ได้แก่
- การออกกำลังกายเบาๆ ด้วยการงอนิ้วมือ
- การออกกำลังกายด้วยบีบนิ้วมือโดยใช้โฟมอ่อน หรือบริเวณอ่อนของเปลือกตะขอ
- การผ่าตัด กรณีที่อาการนิ้วล๊อกไม่ดีขึ้นหลังจากการใช้ยาและการฝึกหัด แพทย์อาจต้องพิจารณาการผ่าตัด โดยการผ่าตัดจะช่วยปลดปล่อยเนื้อเยื่อที่เป็นสิว และทำให้นิ้วล๊อกกลับมาทำงานได้ปกติ